อาเซนอล ปืนใหญ่อาร์เซนอล ต้องบอกว่าภาพรวมของซีซั่นนี้ในลีคยอมรับว่าเป็นซีซั่นที่ล้มเหลวมากทีเดียว การตกไปถึงอันดับที่ 8 เป็นเรื่องที่เราไม่ได้เห็นนานมากแล้ว ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าความไม่สม่ำเสมอของพวกเค้าเองทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ เราไปย้อนดูว่า อาร์เซนอลมีเกมยอดแย่ ประจำซีซั่นเกมไหนบ้าง

อาเซนอล

อาเซนอล

แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาร์เซนอล มักจะมีปัญหาเหมือนกันเวลาเจอกับทีมแถวหน้าของลีค พวกเค้าเอาชนะไม่ค่อยได้เท่าไร อย่างเช่นเกมที่เจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นัดแรกตอนเดือนตุลาคม เกมนี้ถือว่าเป็นการเจอกันของคนคุ้นเคยระหว่างเป๊ป กับ อาร์เตต้า

ที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน เกมนี้อาร์ เซนอลแพ้แค่ 0-1 เท่านั้น แต่ว่าสถิติหลังเกมแพ้หมดทุกประตูตั้งแต่เปอร์เซ็นต์ครองบอล, การยิง, ยิงเข้ากรอบ และทุกอย่างมันฟ้องเลยว่าแพ้ทุกประตู น่าผิดหวังจริงๆ

แพ้ แอสตัน วิลล่า หลังจากเรียกศรัทธากลับมาได้บ้าง สำหรับอาร์เตต้า ในเกมที่เอาชนะแมนยูได้ แต่ว่าเกมต่อมาพวกเค้ากลับไปเป็นแบบเดิม ในเกมที่เจอกับ แอสตัน วิลล่า แน่นอนว่า แจ็ค กรีลิช และ โอลี่ วัตกิ้นส์ สร้างความปั่นป่วนให้กับ อาร์ เซนอลทั้งเกม

เกมยอดแย่ประจำซีซั่นของ อาเซนอล

นั่นทำให้ อาเซนอล เล่นไม่ออกเลยเกมนี้ แพ้ไป 0-3 ด้วยสถิติหลังเกมที่ยิงน้อยกว่าอีก เป็นอีกเกมที่แฟนบอลอาร์ เซนอล บ่นเซ็งกันหมดกับผลการแข่งขัน รูปเกมที่สู้ไม่ได้

แพ้ ลิเวอร์พูล เดือนเมษายน อาร์ เซนอล และ กุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ได้เวลาเจอบททดสอบอีกครั้ง คราวนี้เป็นลิเวอร์พูลที่บุกมาเยือนพวกเค้าในบ้าน เกมนี้ อาร์ เซนอล คาดหวังจะชนะเพื่อเก็บสามแต้ม ลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปใหได้ แต่การเจอกับแชมป์เก่านาที

นี้ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด กลายเป็นอีกเกมหนึ่งที่อาร์ เซนอล แพ้หมดทุกประตู สกอร์ด้วย 0-3 ด้วยสถิติหลังเกมที่แพ้หมดทุกประตูตั้งแต่การครองบอล การยิงประตู การยิงเข้ากรอบ คิดดูว่า อาร์เซนอลยิงทั้งเกมไป 3 ส่วนลิเวอร์พูลยิงไป 16 ทำเอาแฟนที่ดูอยู่

ในจอบ่นกันหมดอะไรมันจะสู้ไม่ได้ขนาดนั้น

อาเซนอล
เกมยอดแย่ประจำซีซั่นของ อาเซนอล

ผ่านไปแล้วสำหรับเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนัดแรกของโซนยุโรปเค้าต้องบอกเลยว่าภาพรวมหลายทีมออกสตาร์ทกันไม่ดีเท่าไร เราคิดว่าน่าจะมาจากไม่ได้มีเกมอุ่นเครื่องก่อน มาถึงก็ซ้อมแล้วลงแข่งเอาจริงกันเลยทำให้นักเตะหลายทีมดูจะไม่คุ้นเคยกันดีเท่าไร

รวมถึงแท็คติคที่ยังไม่ลงตัวด้วย เลยทำให้ผลการแข่งขันดูจะผิดคาดของแฟนบอลไปเยอะเลย ยิ่งสายลงทุนนี้กุมขมับกันเลย

สเปน เสมอ กรีซ สเปน เกมแรกเจอกับ กรีซ พวกเค้าทำได้แค่เสมอ 1-1 เท่านั้นเอง ส่วนตัวมองว่าน่าผิดหวังมาก เพราะว่าสเปน ขนตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามแต่ก็เอาชนะไม่ได้ เกมนี้ต้องโทษตัวเองล้วนๆ เพราะว่าไม่สามารถปิดเกมเอาประตูที่สองได้

นั่นทำให้มาโดนกรีซยิงจุดโทษเข้าไป เกมต่อไปทำให้สเปน เล่นยากขึ้นต้องชนะไว้ก่อนเท่านั้น

อิตาลี กับ ไอร์แลนด์เหนือ อิตาลี ชื่อนี้การันตีได้เลยว่า รอบคัดเลือก พวกเค้าจะไม่ใช่ร่างทองเท่าไร ทำให้คนที่คอยเชียร์อาจจะต้องเผื่อใจไว้บ้าง แต่เกมนี้เจอกับ ไอร์แลนด์เหนือ ที่ก็ไม่ได้ง่ายเท่าไรนัก อิตาลีมานำเร็วตั้งแต่ช่วงต้นเกมจาก โดเมนิโก้ เบราร์ดี้

และประตูที่สองจาก ชิโร่ อิมโมบิเล่ ทำให้พวกเค้าเล่นสบาย ปิดเกมได้เลยตั้งแต่ตอนนั้น

อาร์เซนอลคืออะไร

อาร์เซนอล สโมสร Arsenal ถือเป็นอีกหนึ่ง ทีมฟุตบอล เก่าแก่ของ อังกฤษ และมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีทั้งช่วงเวลาที่น่าจดจำ และไม่น่าจดจำ มีเหตุการณ์หลายอย่างที่ผ่านเข้ามา ทั้งดี และไม่ดี หล่อหลอมจนมาเป็น ทีมอาร์เซนอล ในทุกวันนี้

ซึ่งเราเชื่อว่ายังมี แฟนบอล ปืนใหญ่ หลายๆ ท่าน ที่ยังไม่ทราบถึง ประวัติ อาร์เซนอล ความเป็นมา และเรื่องราวต่าง ๆ ของทีมรัก

สโมสรอาร์เซนอล ถูกต่อตั้งเมื่อปลายปี 1886 โดยกลุ่มพนักงานของโรงงานผลิตอาวุธในเมืองวูลวิช กรุงลอนดอน โดยในช่วงแรกใช้ชื่อว่า Dial Square และ แมตซ์แรกที่แข่งขันกันอย่างเป็นทางการ คือการพบกับ อีสเทิร์น วันเดอเรอร์ส เรส

อาเซนอล
อาร์เซนอลคืออะไร

ซึ่งพวกเขาสามารถเอาชนะด้วยสกอร์แบบถล่มทลาย ซึ่งถือเป็นชัยชนะ ครั้งแรกของทีมในช่วงวันที่ 11 ธันวาคมในปี 1886 หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนชื่อทีมมาเป็น Royal Arsenal และทำการลงแข่งขันในรายการท้องถิ่นจนถึงปี 1891 ก็ได้เปลี่ยนจากทีมสมัครเล่นมาเป็น ทีมฟุตบอลอาชีพ โดยใช้ชื่อว่า วูลวิช อาร์เซนอล และเริ่มเข้าแข่งขันในรายการฟุตบอลลีก ในช่วงปี 1893

ประวัติของพวกเขา

ต่อมาในปี 1913 อาเซนอล ได้ย้ายมาเล่นใน ไฮบิวรี่ และช่วงนั้นเองที่พวกเขาได้เริ่มเข้าสู่สงครามโลกครั้งครั้งที่ 1 เมื่อจบสงคราม การแข่งฟุตบอล ในอังกฤษ ก็ได้หวนกลับมาอีกครั้ง และจัดตั้งเป็น ลีกดิวิชั่น 1 ซึ่ง อาร์เซนอล ก็ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วม

ให้อยู่ในลีกสูงสุดนี้ด้วย และไม่เคยได้ลดชั้น หรือตกชั้น ตั้งแต่เข้าสู่ดิวิชั่น 1 ในช่วงปี 1930 ทีมอาร์เซนอล ได้ทำการคว้าแชมป์ลีก 5 สมัย ไปครองได้สำเร็จ ด้วยการคว้าแชมป์สมัยแรกในปี 1931 โดยการทำทีมของ เฮอร์เบิร์ต แชปแมน ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูกาลปี 1932

ต่อเนื่องจนถึง 1935 อีกทั้งยังสามารถทำ แฮตทริก ในการเป็นแชมป์ได้อีกด้วย สูงสุดถึง 4 ครั้ง

หลังจากนั้นช่วงทศวรรษ 1980 ถือว่า ทีมปืนใหญ่ ประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถเข้าชิงชนะเลิศ ในรายการ เอฟเอคัพได้ถึง 3 ครั้ง และเป็นแชมป์ถึง 2 ครั้งด้วยกัน และมีนักเตะที่โด่งดังในช่วงทศวรรษนี้อยู่หลายคนไม่ว่าจะเป็น อเล็กซ์ เจมส์ , เท็ด เดร็ค , คลิฟฟ์ บาสติน , เดวิด แจ๊ค , เอ๊ดดี้ แฮ็ปกู้ด และ จอร์จ

ประวัติของพวกเขา

เมล ซึ่งถือได้ว่าประสบความสำเร็จ กับทีมอาร์เซนอล อย่างล้นหลามและในช่วงทศวรรษนี้เอง สโมสรอาร์เซนอล ก็ต้องสูญเสีย เฮอร์เบิร์ต แชปแมน ผู้จัดการทีมมือดี ไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งเขาเป็นผู้จัดการทีมที่ทำทีมประสบความสำเร็จในช่วงทศวรรษนั้นเลยก็ว่าได้ จนกระทั่งเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ฟุตบอลอังกฤษ ก็เป็นอันต้องหยุดการแข่งขันอย่างสิ้นเชิง

หลังจากที่ ฟุตบอลอังกฤษ ต้องหยุดทำการแข่งขันลง เพราะภาวะสงคราม จนกระทั่งในปี 1947 อาร์เซนอล กลับมาอีกครั้ง ในยุคการทำทีมของ ทอม วิทเทคเกอร์ ซึ่งเขาถือได้วชว่าเป็น กุนซือทีม อีกคนที่ทำให้ ปืนใหญ่ ประสบความสำเร็จมากกมาย อีกครั้ง เพราะได้แชมป์ในฤดูกาลปี 1947- 48 และปี 1952 -53 รวมถึงได้ แชมป์เอฟเอคัพ ในปี 1950 และเป็นรองแชมป์ เอฟเอคัพ ในปี 1952 ซึ่งก็ถือว่ายุคนี้ Arsenal

ทำผลงานได้โดดเด่น อาเซนอล

อาร์เซนอล ทศวรรษที่ 60 สโมสรอาร์เซนอล ก็เหมือนเข้าสู่ยุคมืด เพราะในรายการ ลีกคัพ พวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลย อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมคนใหม่ในช่วงปี 1966 คือ เบอร์ตี้ มี และเขาพาทีมประสบความสำเร็จในปี 1970-71 ด้วยการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในรายการ ดิวิชั่น 1

และ เอฟเอคัพ และหลังจากนั้นช่วงปลายทศวรรษที่ 60 ก็เป็นการนำทัพของ กุนซือทีม คนใหม่อย่าง เทอร์นี่ นีลล์ ที่พาอาร์เซนอลประสบความสำเร็จเข้าชิงชนะเลิศในรายการ FA Cup ได้ถึง 3 ปีติดต่อกัน และสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้

ทำผลงานได้โดดเด่น อาเซนอล

ต่อมาในปี 1979 พวกเขายังได้เข้าชิงชนะเลิศในรายการ วินเนอร์คัพ และหลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมอีกครั้งโดย จอร์จ เกรแฮม อดีตนักเตะคนเก่งของทีมได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีม และพาทีมประสบความสำเร็จได้ในช่วงปี 1986-87

ด้วยการคว้า แชมป์ลีกคัพ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาร์ เซนอล มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของ ผู้จัดการทีม หลายต่อหลายครั้ง และครั้งที่ดูจะเป็นประวัติศาสตร์ มากที่สุด คงไม่พ้นกับการก้าวเข้ามารับตำแหน่งของ อาร์แซน เวนเกอร์ ในช่วงฤดูกาล1997 -98 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกของเขากับสโมสร และเขาก็ไม่ทำให้ทีมต้องผิดหวัง สามารถพาสโมสรคว้าดับเบิ้ลแชมป์

ความสำเร็จของพวกเขาเป็นยังไง

ด้วยการชนะเลิศฟุตบอลลีก และคว้า ถ้วยเอฟเอคัพ มาครองได้สำเร็จ ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งที่ 2 ใน ประวัติ อาร์เซนอล ที่สามารถทำ Double Champ ได้สำเร็จ อีกทั้ง เวนเกอร์ ยังเป็น กุนซือต่างชาติคนแรก ของทีมที่พาทีมประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งได้รับตำแหน่ง ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยม ในฤดูกาลนั้นไปครอง และแน่นอนว่าหลังจากนั้น อารแซน เวนเกอร์ ก็พาทีมประสบความสำเร็จมาเป็นระยะๆ ซึ่งการก้าวเข้ามาของเขาทำให้นักเตะต่างชาติในทีม

ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น และโชว์ศักยภาพได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็น เอ็มมานูเอล เปอตีต์ และ ปาทริก วิเอร่า ซึ่งทั้งสองคนนี้ถือว่ามีดีกรีเป็น นักเตะทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์โลก ที่ก้าว เข้ามาร่วมทีมกับอาร์ เซนอล แต่พวกเขาก็ต้องเสียนักเตะคนสำคัญอย่าง เอียน ไรท์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง ตำนาน ปืนใหญ่ เพราะเขาเป็นนักเตะที่ยิงประตูสูงสุดของอาร์ เซนอลด้วยสถิติ 185 ประตูต่อมาในฤดูกาลปี 1998 อาร์เซนอลประสบความสำเร็จ อีกครั้ง สามารถคว้า แชมป์แชริตี้ชิล ไปครองได้สำเร็จ แต่ในรายการลีก

ความสำเร็จของพวกเขาเป็นยังไง

สูงสุด หรือ พรีเมียร์ชิพ นั้นพวกเขาทำได้แค่การเป็นรองแชมป์เท่านั้น และในฤดูกาลปี 1999 ถึง 2000 อาเซนอล ก็เหมือนจะวัดรอยเท้าเดิม เพราะสามารถคว้าแชมป์ในรายการ แชริตี้ชิลได้แต่กับฟุตบอลลีกนั้นได้แค่รองแชมป์ และชวดตำแหน่งแชมป์เอฟเอคัพในฤดูกาล 2000 – 2001 ซึ่งในฤดูกาลนี้พวกเขาต้องอกหักกับการเข้าชิงชนะเลิศในรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกด้วย เพราะไปได้ไกลที่สุดแค่รอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้น